Friday, April 30, 2010

Local Hero Piet van Wijngaarden


The original Assen racetrack, in the north of The Netherlands, was first used for the Dutch TT in 1925. Winner of the 500cc class in both 1925 and 1926 was Piet van Wijngaarden on a Norton. The pictures above show Piet (number 36) on the 26th of June 1926. The Norton most probably was a Model 18; the Model 25 did not really exist as a catalogued model until the autumn of 1926 but 'go-faster-bits' could be ordered from the factory and seem to have been fitted; note the very high filler neck. As the race was on public roads, fitting a horn must have made sense!


Going international in 1927, Stanley Woods joined the Assen TT and won the 500cc class on his Moore designed CS1. The photo shows Stanley working on his Norton; Piet van Wijngaarden watches. The flat tank Norton leaning against the wall on the right could be Piet's Model 18.


This photo shows Piet van Wijngaarden, Joe Craig, Walter Rusk and Jimmy Guthrie at the Assen TT in 1935; that year Rusk and Guthrie would win the 350cc class and 500cc class respectively.

Thursday, April 29, 2010

ไออาร์ซี ดอก ลายไฟ เทรนด์ใหม่เอาใจสิงห์นักบิด

ส่วคมชัดลึก : เปิดศักราชได้ไม่ถึงเดือน บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี จับมือ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด แนะนำยางรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ กับลายดอกยาง ลายไฟ หรือมีชื่อเรียกว่า ไวด์ แฟลร์ (Wild Flare) โดยชี้กลุ่มเป้าหมายไปยังรถออโตเมติกและกลุ่มผู้ชื่นชอบความแปลกใหม่ที่จะให้แสดง

ในงานเปิดตัว มีผู้บริหารระดับสูง ทั้ง พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล เหล่าจินดา ประธานกรรมบริหาร ทาเคชิ อารากาว่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ซาโตชิ อากาสึกา กรรมการ บริษัท ไออาร์ซี เอเซีย รีเสิร์ช จำกัด พร้อมด้วย พิเชฐ ตังคไชยนันท์ ผู้จัดการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพรียง
การเปิดตัวยางรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ได้ 2 นักแต่งรถจักรยานยนต์มือพระกาฬ อย่าง "เฮียตี๋ มหาชัย" หรือสมบูรณ์ แห่ง SRY และ “เสี่ยบาส” แห่งร้าน ลิขิต เรซซิ่ง เข้ามาเล่าถึงแนวทางการตกแต่งรถจักรยานยนต์ที่นอกเหนือจากรูปแบบของแฟริ่งต่างๆ แล้ว ยางรถจักรยานยนต์เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในยุคสมัย
“ลายไฟ” ที่ถูกแกะเป็นลายดอกยาง รุ่นไวด์ แฟลร์ เป็นอีกมิติของผู้ชื่นชอบการตกแต่งรถจักรยานยนต์ ที่ไม่ต้องการลงทุนมาก เพียงแค่ลายดอกยาง ก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาทุกคู่บนท้องถนนได้แล้ว
ซาโตชิ อากาสึกา กล่าวว่า ในประเทศญี่ปุ่น WF-910 (Wild Flare) เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 2536 ซึ่งช่วงเวลานั้น “ลายไฟ” ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ประเภทครุยเซอร์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัท อีโนเว รับเบอร์จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการพิจารณาว่าจะใช้ลายไฟกับยางได้อย่างไร
ครั้งแรกได้มีการออกแบบลายไฟสำหรับยางหลังเท่านั้น เนื่องจากยางหน้ามีขนาดเล็กแคบ
แล้วยางรหัส WF-920 ก็ได้เปิดตัวอีกครั้งในปี 2539 กับซูซูกิ (Desperado) พร้อมได้มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบจากลาย WF-910 เป็น WF-920 เนื่องจากรถซูซูกิรุ่นนี้ ยางหน้ามีลักษณะทรงอ้วน IRC จึงได้มีการปรับปรุงการออกแบบให้เกิดความสมดุลของร่องยางเพื่อความเสถียรของยาง
ส่วน WF-930 เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งลายไฟได้รับความนิยมมากในรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ในประเทศญี่ปุ่น ไออาร์ซีจึงเริ่มใช้ลายไฟกับยางรถสกู๊ตเตอร์ สำหรับรถสกู๊ตเตอร์ตกแต่งและการออกแบบลายของ WF-930 ได้ปรับปรุงพัฒนาจาก WF-920 ในส่วนของการขับเคลื่อน เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ใช้รถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ขอบยางมีการออกแบบเป็นลายไฟเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถทาสีบริเวณขอบยางที่เป็นลายไฟได้
“ยางรุ่นใหม่นี้เราเลือกโครงสร้างและเนื้อยางแบบคอมเปาว์คุณภาพสูง เพราะต้องการตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในเรื่องของความสมดุลและสมรรถนะในการขับขี่ โดยเฉพาะการเกาะถนน ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง มีความนุ่มนวลในการขับขี่ และการควบคุมทำได้อย่างมั่นใจ เราเชื่อว่ายางลายไฟจะถูกใจผู้ใช้และได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกทุกประเภท” นายซาโตชิ กล่าว
ขณะที่ พิเชฐ ตังคไชยนันท์ ผู้จัดการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด กล่าวว่า บริษัทในฐานะตัวแทนจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี คิดว่ายางลายไฟจะเพิ่มยอดขายได้อย่างแน่นอน ด้วยคุณสมบัติที่ดีมีคุณภาพ รูปลักษณ์ที่สวยงาม โดนใจวัยรุ่นขาโจ๋ที่ใช้รถจักรยานยนต์ออโตเมติกทุกประเภท และสามารถเป็นอุปกรณ์ตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้
สำหรับยางไออาร์ซี ไวด์ แฟลร์ รหัส WF-920 มี 3 ขนาด ประกอบด้วย ขนาด 80/90-14 WF-920F TL ขนาด 90/80 14WF-920R TL และขนาด 100/70-14 WF-920R TL วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 และจะมีขนาดเพิ่มเติมสำหรับรถออโตเมติกเมืองไทย ครบทุกรุ่น เร็วๆ นี้


เพิ่มเติม http://news-lifestyle.blogspot.com/2010/03/blog-post_6931.html

Wednesday, April 28, 2010

The Braid brothers in 1914


These are the Braid brothers during the 1914 TT on the Isle of Man.  The model numbering system has been in use since 1915, so while these motorcycles look like TT Model 9's they could be 3 1/2 HP models. Large boxes are fitted to the saddle tubes; are these oiltanks or toolboxes? The old Norton logo is still used.

Roger:"The Nortons have a two speed epicyclic gearbox on the end of the crankshaft. The lever changes between the two ratios without a clutch."

Stanley Woods and a Mousetrap carburetter


Sent by Dave; this is Stanley Woods, in bed, holding a Binks Mousetrap carburetter while over in Holland for the 1927 TT in Assen. Stanley won the Dutch Senior TT on the 25th of June (below) and he used a Binks carb. I am not sure why he would be looking at a Binks Mousetrap in bed as I am fairly sure that he would not have used one on his CS1.

Monday, April 26, 2010

c1937 596cc overhead camshaft Norton


More photo's of Ballazam's very rare 596cc International Norton. The Norton seems to be remarkably original; the front hub and forks have not been replaced by WD16H items and it still uses the 10TT9 carburetter. Note the lugs on the rear frame tubes where the rear set footrest were fitted. It has a wrap-around oiltank and Andree steering damper.

The Run Watcha Bring Run 2010 II

Ja je kunt wel thuis blijven zitten pitten...maar hoe dan ook,

"brommers" al dan niet in revisie,

gereden worden zal er toch.

Kobus & MGS hadden deze dag weer getekend voor

een mooie dag, kortom een mooie rit...

met weer de nodige kilometers !

Wij vertrokken dit keer vanaf de "Sterrenwijk" te Utrecht.

De rit ging binnendoor, gesneden koek natuurlijk,

ri. Wijk bij Duurstede

Matchless Model X ST "Black Train" versus *Triumph Rocket III

*Denk je een "dikke brommerd " te rijden ! :)

Celebrating 20 Years of Hinckley Triumphs

Echter omdat het nu bij "Wijk on the Wall" nogal druk was

gingen wij door ri. Amerongen naar het ons welbekende terras van

Cafe Restaurant Hotel *Buitenlust

*wanneer komen wij er nou niet !?

(Archief 2000)

En wat dacht je wat daar aangekomen kwamen wij in contact met twee andere veteraan motorrijders, helaas hebben wij daar geen foto's van, edoch zij bleken lid te zijn van ene Dutch Vintage Motorcycle Association, en zij kwamen beiden uit Groenekan.

Ik vind het dan ook erg, zeg maar... best wel leuk,

dat je dit soort mensen zomaar ook "in het wild" tegenkomt.

Jammer dat ze er meteen vandoor moesten...zij hadden er immers al een hele

"terrasbeurt" opzitten en moesten snel verder... En zo geschiedde...

Kobus & MGS genoten van het nog zonnige terras

onder het genot van een versnapering.

In de namiddag/avond was wat regen voorspeld.

Daarna ging het ri. Leersum naar de welbekende "Uilentoren".

Altijd een leuke stek voor wat "helicopterviewfoto's.

Toch twee V-Twins...

- X ST -

Van daaruit ging het naar Doorn binnendoor naar Maarsbergen, Scherpenzeel voor een tankstop. Daarna via Woudenberg langs Austerlitz, ri. Zeist, Bilthoven voor een koffiestop, en weer door voor een verlaat bezoek aan HansHans die de dag ervoor uitgebreid zijn verjaardag gevierd had.

Dat werd nog even dunnetjes overgedaan en

was het gezellig toeven daar in het Groenekanse...

Vette Castrol R40 " Vleesjus in de pan".

HansHans was druk doende zijn

Vintage Triumph TT Model twinport Victor Horsman 498 cc uit 1927

beginnen in te rijden na een grondige revisie.

Inmiddels was de zon vertrokken en vertrokken ook wij allen weer op huis aan

na een genoeglijke dag van genietend motorrijden.

Toch weer zo'n 86 mls = ca. 138 kms gereden...

SO

"The Vetter... The Better !"

Motoring George Spauwen

Sponsored by
Victrace Sitebuilding

ฟีมพร้อมลุยศึกกระทิงดุ


ได้เวลาที่เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบรุ่นโมโตทู ขวัญใจชาวไทย สังกัดทีมไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซ๊กเดิทางกลับไปอยู่บ้านที่ประเทศเสปนเสียที หลังจากบินมาพักผ่อนที่เมืองไทยเสียนาน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนอดเป็นห่วงเพราะฟีมไม่มีตั๋วจะบินกลับบ้าน

ฟีมได้บอกว่า "สนามเฮเรซเป็นสนามยากในอันดับต้นๆ อาจจะไม่ยากที่สุด แต่ด้วยเป็นสนามของชาวเสปนซึ่งมีนักแข่งมากที่สุด ทำให้ความได้เปรียบเป็นของเจ้าบ้านไปโดยปริยาย นักแข่งที่เข้ามาใหม่หลายคนก็คุ้นเคยกับสนามแห่งนี้ เพราะแข่งอยู่ทั้งปี ผิดกับเราที่แข่งเพียงปีละครั้ง ช่วงทดสอบก็ได้ขับขี่เพียงน้อยนิด ในครั้งนี้จึงเป็นงานหนัก นอกเหนือจากรถแข่งที่ยังไม่ลงตัวแล้วยังต้องต่อสู้กับนักแข่งที่มีความคุ้นเคยอีกหลายคน"

รถแข่ง HB4 น่าจะดีขึ้น จากข้อมูลที่ด้รับมาจากเปราเลส บอสใหญ่ทีมแซ๊ก ในขณะที่คู่แข่งก็มากขึ้นด้วย จะเห็นได้ว่า การทดสอบ IRTA ครั้งล่าสุดก่อนไปกาต้าร์นั้น นักแข่งหน้าใหม่หลายคนทำเวลาได้ดีแบบน่าทึ่ง นั่นเพราะหลายคนที่มาใหม่แข่งในรายการเสปนนิชแชมป์เปี้ยนชิพ ทำให้มีความคุ้นเคยสนามมากกว่านักแข่งที่แข่งอยู่ใน World GP

"อย่างไรก็ดี หากเราสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดในสนามแรกได้ลงตัวก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ได้มีแก้ไขและมีการทดสอบที่สนามมูเจลโล่ ในอิตาลีเมื่อสิบกว่าวันก่อน ก็น่าจะทำให้ครั้งนี้ไม่เหนื่อยเหมือนครั้งก่อนครับ"

"อย่างที่บอกไปแล้วว่า ฟีมขอปรับตัวถึงสนามเฮเรซ เพราะฟีมเองก็ยังไม่ได้ขับขี่รถที่แก้ไขแล้ว ยังไม่รู้เหมือนกันว่าดีขึ้นขนาดไหน ตัวฟีมเองนั้นพร้อม จะเป็นห่วงก็แต่เรื่องรถ จึงไม่สามารถบอกได้ว่า สนามเฮเรซจะได้ผลงานขนาดไหน ขอพูดเหมือนเดิมว่า ฟีมพยายามเต็มที่ทุกครั้งที่ลงแข่งอยู่แล้วครับ"

ฟีมจะเดินทางไปเสปนคืนนี้ (26 เมษายน) ในเวลา 23:15 น. ซึ่งจะถึงบาร์เซโลน่าช่วงสายๆ ของวันพรุ่งนี้ และจากนั้นจะเดินทางลงใต้ต่อไปยังเซบิย่าเพื่อร่วมการแข่งขันโมโตทูในสุดสัปดาห์นี้ที่สนามเฮเรซ

ชมและเชียร์ฟีมผ่านทางทรูวิชั่นช่องสตาร์สปอร์ตในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2553 เวลา 17:15 น. หรือเทปบันทึกการแข่งขันผ่านทางช่อง 9 สมท.เวลา 00:05 น.ของคืนวันอาทิตย์นี้ครับ


เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page064.asp?id=0603

เจ้าฟีม - รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดขวัญใจชาวไทย ร่วมมอบรถจักรยานยนต์ฮฮนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายน้องอุ่นใจ



มอบรางวัลแฟนคลับ ธนภรณ์ กาญจนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายภาคธุรกิจ กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด มหาชน พร้อมด้วย สมคิด ศรีสมยศ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และ เจ้าฟีม - รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดขวัญใจชาวไทย ร่วมมอบรถจักรยานยนต์ฮฮนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ลายน้องอุ่นใจ ให้กับแฟนคลับของฟีมที่ติดตามผลงานและให้กำลังใจผ่านเครือข่าย AIS ตลอดมา

โดยในงานนี้ เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่ AIS ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดได้มามอบด้วยตัวเอง


เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page063.asp?id=0602

Sunday, April 25, 2010

Model 30 International Norton


A nice period shot of a cammy Norton hitched to a sidecar, but what is it exactly? The forks look like early 1930s Webbs to me, without the adjustable dampers and check springs. The 21" front wheel has the drum brake on the left hand side and uses an obsolete speedo drive. The oiltank is of the later wrap-around type.

Roger: "CG366 is a London registration dating from 1930 so it is probably a later picture with subsequent modifications to the various bits"

Can You See Me Now?

Can You See Me Now?


X-treme Design Class 2 High-Visibility Mesh Safety Vest — Lime Review


If you have ridden a motorcycle for any length of time you have had close encounters with the drivers of other vehicles. If you ride year round like me you probably have had lots of them. People pulling out in front of you, turning in front of you, not yielding to you, and changing into your lane all happen too frequently to us traveling on two wheels.

One of the biggest problems of cage drivers is that they just cannot see us. The moment you start riding a motorcycle or scooter you become invisible like you have turned on some Romulan Cloaking Device. On a motorcycle we are a smaller target to see and people just don’t seem to look that well. Another factor is that it would appear we tend to travel a little faster than cages and when they look they don’t look far enough away to see us coming at speed. We can be beside them or in front of them in the second it takes them to look back to start making their planned maneuver.

Then there is the rumor going around that Loud Pipes Don’t Save Lives. I don’t believe it. Speaking from personal experience, from both points if view, seat and saddle, drivers that may not have seen you, might hear you. They may not hear every time, but any time they do it may prevent a mishap. It has kept daydreaming drivers from moving into my lane before I could react and hit the Stebel Nautilus Compact Dual Tone Horn button. I am not condoning irrationally loud pipes but it does help to be loud enough to be noticed. I like my Cobra Longshots.

Since I commute in the traffic of a major metropolitan area, (Dallas / Fort Worth), everyday to and from work, before sunup and after sundown, I have picked up an inexpensive device to help people see me better. I purchased a X-treme Design Class 2 High-Visibility Mesh Safety Vest — Lime from the local Northern Tool + Equipment. I wear it when it is dark or overcast out like on rainy days. I bought it large enough to fit over my other riding gear.



The High-Visibility Mesh Safety Vest is made from a bright green color that catches your eye in traffic. It has two 2” wide vertical and one horizontal 3M Scotchlite reflective stripes. This safety vest comes with a zipper closure and an inside pocket. The X-treme Design vest meets ANSI/ISEA 107-2004 Class 2 specifications. They also make other models with different features and a high visibility orange color.

Yes, I look like the dorkiest motorcycle rider in the Mid-Cities but at least you can see me. For any of you naysayers out there let me show you the evidence. Here is a photo of me at dusk with just my OSi Cool Mesh Jacket on. Click on any photo for larger view.
 
 

Now here is a photo of me with the X-treme Design Class 2 High-Visibility Mesh Safety Vest — Lime on.



Those were both taken without a flash. Here is a shot with the High-Visibility Vest on and the cameras flash on to simulate headlamps.




Now you can see for yourself with your own eyes what a difference that vest makes. I have been using the vest now for around six months and have not had any issues with it. It has withstood my fumbling fingers not zipping it up correctly and countless rain storms and has held up fine. Torch gives the X-treme Design Class 2 High-Visibility Mesh Safety Vest a M.M.M. rating of 9.5 out of 10.

Ride on,
Torch

 

Roger's Model 40 International Norton


This machine was supplied by the Norton works for the 1933 Grand Prix with a specially tuned 350cc engine. It was used in road races and was first raced at Brooklands in 1936 in the Hutchinson Hundred by JB Moss. By the end of 1937 it was becoming uncompetitive in road races so it remained at Brooklands where the rigid frame was not a significant disadvantage.


When war ended racing on the track it was sold to Ray Petty for use as a means of getting to and from the Vickers works at Brooklands. In 1947 it was sold to Denis (Jenks) Jenkinson who raced it in events at home and on the continent. At a race in Belgium Jenks blew up  the original 350cc engine which was replaced by the current 1950 500cc engine. This is where the confusion comes from; originally a Model 40 it may now be described as a Model 30 International.


Jenks loaned it to the Brooklands Museum in 1990. Still on permanent display in the museum, it was aquired by Roger Bird who uses it in special events like the Spring Motorcycle Gathering; the YouTube film below shows Roger storming Test Hill in fine style.

Saturday, April 24, 2010

1925 Model 16H Norton outfit


More photo's from Howard. Not very clear but as it is a sidevalve machine, with a front drum brake and a dummy belt rim brake at rear I would suggest this is a 1925 Model 16H. Note the extra's: a magdyno, electric lights and a speedometer. And what a very strange sidecar.

I would like to think these are newly weds enjoying their honeymoon trip and the Norton.

Friday, April 23, 2010

Sunken Triumphs at the bottom of the sea!



Een gezonken wrak in de zeebodem, is voor ons allen dan een herinnering in verband met een trieste tragedie is voor de liefhebbers van scuba-duikers, een prachtige gelegenheid voor exploratie. Maar voor ons motorrijders? Wel een zeer interessant verhaal, als de gezonken lading, een lading van motorfietsen is ontworpen om te voldoen aan de troepen wachten in de strijd. Maar die motorfietsen zijn nooit aangekomen en zijn nu aan boord van het gezonken Thistlegorm in de Rode Zee, niet ver van het bekende vakantieoord Sharm el Sheikh, op slechts 10 meter diep.

Game uit Glasgow mei 1941, de Thistlegorm was een gewapende vrachtschip beladen met benodigdheden en de apparatuur voor het Britse Achtste Leger die in de oorlog in Afrika. Maar toen ze de Straat van Suez bereikt, wachtend op de landengte passeren, werd onderschept door de Duitse Heinkel He-111 bommenwerpers, op de avond van 5 oktober '41 het centrum met twee bommen, splitsen in twee delen, waarvan het einde bepaald.

Het schip was geladen, alsmede onderdelen, radio's en kleding voor de troepen, met name in het Bedford vrachtwagens die dump fietsen werden geproduceerd door de grote Britse: Triumph 3HW, M20 BSA, Norton en Matchless G3L 16H, die bieden van het Britse leger voor een totaal van 400 duizend motorfietsen, nuttige snelkoppelingen tussen afdelingen, alsmede de levering van de verzendingen.

Triumph 3HW is niets anders dan Tiger 350 eencilinder ventiel.Er waren op dat schip de nieuwe 3TW (waarbij T staat voor Triumph en W is voor Oorlogsdocumentatie), omdat die nooit zal worden uitgebracht in november 1940 werden vernietigd in een bombardement van de fabriek in Coventry.

Vandaag de dag, zijn die motorfietsen nog steeds op de bodem van de Rode Zee, en zijn uitgegroeid tot de belangrijkste attractie voor duikers. Het wrak is in ernstig gevaar als gevolg van overmatige bezoeken elk jaar ontvangt duizenden duikers als luchtbellen voor de continue verwijdering ze zijn net als de twee takken verwijderd door twee gepantserde Rolls Royce. Momenteel is de Egyptische regering overweegt de sluiting van de site om het sportduiken minste voor een bepaalde periode voor de stabilisatie van het wrak zelf mogelijk te maken.

Bron:
Chepassione
Antonio Di Coste

SO

STEEDS VERASSEND, ALTIJD DICHTBIJ

Motoring George Spauwen

Sponsored by
Victrace Sitebuilding