ยามาฮ่า คาดปีนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ทำยอดขายรวมถึง 1.7 ล้านคัน โต 11% เมื่อเทียบกับปี 2552 และในจำนวนนี้เป็นของตนเอง 480,000 คัน พร้อมเดินนโยบายสร้างแบรนด์และสร้างความพอใจสูงสุดให้ลูกค้า
ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า แม้ภาพรวมของยอดขายรถจักรยานยนต์ในปี 2009 จะลดลงถึง 10 % แต่ก็ยังถือว่าเป็นปีที่ยามาฮ่าประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกที่ยามาฮ่าเป็นผู้นำเทรนด์อย่างแท้จริง ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดจดทะเบียนรวม 429,000 คัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวเลขทางการขายที่ดีของทางยามาฮ่า ทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 28%
ในปี 2009 รถจักรยานยนต์ประเภทออโตเมติกมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 47% ของตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทั้งหมด และในส่วนรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกของยามาฮ่ามีส่วนแบ่งเฉลี่ยทั้งปี 53% บริษัทฯได้คาดการณ์ภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2010 ว่า ราคาน้ำมันของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสภาวะการเมือง จะส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกด้านอื่นๆ เช่น ราคาผลผลิตทางการเกษตรมีแนวโน้มสูงขึ้น การส่งออกเติบโต จำนวนของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นโยบาย “ไทยเข้มแข็ง” ต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีแนวโน้มมากขึ้น การลงทุนของภาครัฐ และเอกชนที่เพิ่มขึ้น จะเป็นตัวแปรทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์มีการเติบโต
“จากการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจ อัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2010 จะอยู่ที่ประมาณ 3.3-5.3% ในขณะที่อัตราการเติบโตของ GDP ของปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณลบ 3% ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงได้มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขของตลาดรวมในปี 2010 จะมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 11% โดยตัวเลขของตลาดรวมอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน และบริษัทฯ ตั้งเป้าการขายอยู่ที่ 480,000 คัน และทำให้ยามาฮ่ามีอัตราการเติบโตถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
ด้านจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า กล่าวว่า“ในปี 2010 นี้บริษัทฯ มีนโยบายที่จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพสูง ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น รวมถึงการบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ บริษัทฯ ได้มีนโยบายหลัก 2 ประการคือหนึ่ง เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้าอย่างต่อเนื่อง และสองเพิ่มความพึงพอใจลูกค้าอย่างแตกต่าง ด้วยกลยุทธ์ด้าน 3S และ CRM
ในส่วนของนโยบายแรกบริษัทจะสร้างความโดดเด่นด้วยแคมเปญ “Makes Your Life Different” จนทำให้ยามาฮ่าประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้ Brand Image ของ ยามาฮ่าแข็งแกร่ง และโดดเด่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ ยามาฮ่าจึงได้ทำแคมเปญเฟสที่ 2 ในปี 2008 ภายใต้ชื่อชุด “Yes! We are Different” และยามาฮ่าก็ประสบความสำเร็จกับแคมเปญนี้เป็นอย่างมาก
ในปีนี้ยามาฮ่าจะใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดแบบ “สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง” เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตราสินค้า ยามาฮ่าจะเสริมสร้างแบรนด์ และกิจกรรมการตลาดให้แข็งแกร่งต่อไปเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายในระยะยาว คือการเป็น the “Only One Brand” ในใจลูกค้า
สำหรับนโยบายที่สองคือ เพิ่มความพึงพอใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ด้าน 3S และ CRM ที่บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาเครือข่ายด้วยโชว์รูมภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย (Yamaha Square) ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการทั่วประเทศถึง 340 แห่ง และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนงานที่จะขยายเพิ่มเติมอีก 50 แห่ง มีการฝึกอบรมให้กับพนักงานของผู้จำหน่ายในด้านบริการและอะไหล่
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/
ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า แม้ภาพรวมของยอดขายรถจักรยานยนต์ในปี 2009 จะลดลงถึง 10 % แต่ก็ยังถือว่าเป็นปีที่ยามาฮ่าประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกที่ยามาฮ่าเป็นผู้นำเทรนด์อย่างแท้จริง ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดจดทะเบียนรวม 429,000 คัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวเลขทางการขายที่ดีของทางยามาฮ่า ทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 28%
ในปี 2009 รถจักรยานยนต์ประเภทออโตเมติกมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 47% ของตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทั้งหมด และในส่วนรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติกของยามาฮ่ามีส่วนแบ่งเฉลี่ยทั้งปี 53% บริษัทฯได้คาดการณ์ภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2010 ว่า ราคาน้ำมันของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสภาวะการเมือง จะส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกด้านอื่นๆ เช่น ราคาผลผลิตทางการเกษตรมีแนวโน้มสูงขึ้น การส่งออกเติบโต จำนวนของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นโยบาย “ไทยเข้มแข็ง” ต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีแนวโน้มมากขึ้น การลงทุนของภาครัฐ และเอกชนที่เพิ่มขึ้น จะเป็นตัวแปรทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์มีการเติบโต
“จากการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจ อัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2010 จะอยู่ที่ประมาณ 3.3-5.3% ในขณะที่อัตราการเติบโตของ GDP ของปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณลบ 3% ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงได้มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขของตลาดรวมในปี 2010 จะมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 11% โดยตัวเลขของตลาดรวมอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน และบริษัทฯ ตั้งเป้าการขายอยู่ที่ 480,000 คัน และทำให้ยามาฮ่ามีอัตราการเติบโตถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
ด้านจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า กล่าวว่า“ในปี 2010 นี้บริษัทฯ มีนโยบายที่จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ระบบออโตเมติก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพสูง ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น รวมถึงการบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ บริษัทฯ ได้มีนโยบายหลัก 2 ประการคือหนึ่ง เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้าอย่างต่อเนื่อง และสองเพิ่มความพึงพอใจลูกค้าอย่างแตกต่าง ด้วยกลยุทธ์ด้าน 3S และ CRM
ในส่วนของนโยบายแรกบริษัทจะสร้างความโดดเด่นด้วยแคมเปญ “Makes Your Life Different” จนทำให้ยามาฮ่าประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้ Brand Image ของ ยามาฮ่าแข็งแกร่ง และโดดเด่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ ยามาฮ่าจึงได้ทำแคมเปญเฟสที่ 2 ในปี 2008 ภายใต้ชื่อชุด “Yes! We are Different” และยามาฮ่าก็ประสบความสำเร็จกับแคมเปญนี้เป็นอย่างมาก
ในปีนี้ยามาฮ่าจะใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดแบบ “สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง” เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตราสินค้า ยามาฮ่าจะเสริมสร้างแบรนด์ และกิจกรรมการตลาดให้แข็งแกร่งต่อไปเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายในระยะยาว คือการเป็น the “Only One Brand” ในใจลูกค้า
สำหรับนโยบายที่สองคือ เพิ่มความพึงพอใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ด้าน 3S และ CRM ที่บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาเครือข่ายด้วยโชว์รูมภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย (Yamaha Square) ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการทั่วประเทศถึง 340 แห่ง และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนงานที่จะขยายเพิ่มเติมอีก 50 แห่ง มีการฝึกอบรมให้กับพนักงานของผู้จำหน่ายในด้านบริการและอะไหล่
เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/
No comments:
Post a Comment