Suzuki 100 Years of Innovation…100 ปี กับ ซูซูกิ สู่นวัตกรรมที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ จาก
เครื่องทอผ้า...สู่ความเป็นผู้นำในเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลก ฉลองครบรอบ 100 ปี ในเดือนตุลาคม ปี
2009 นี้ ปัจจุบัน ซูซูกิ ได้ขยายธุรกิจออกไปอย่างมากมาย ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถเอทีวี เครื่อง
ยนต์เรือ และอีกหลากหลายนวัตกรรม เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้ากว่า 190 ประเทศ และมี
โรงงานผลิต / ประกอบ กว่า 60 ประเทศทั่วโลก ระยะเวลา 100 ปี ที่ผ่านมาของ ซูซูกิ ได้สร้างสรรค์ และ
ประดิษฐ์นวัตกรรมที่มีคุณภาพตอบสนองทุกความต้องการทั่วโลก เพื่อสร้างความเร้าใจ ความท้าทาย คุณ
ค่า ทางเลือกที่ถูกต้อง และมุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งภายใต้แบรนด์สโแกนปัจจุบัน “Suzuki Way of
Life!”
ย้อนกลับไปในปี 1909 (พ.ศ.2542) มร.มิชิโอะ ซูซูกิ (Mr.Michio Suzuki) ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตเครื่องทอผ้า ซูซูกิ (Suzuki Loom Works) ในเมืองฮามามัตซึ (Hamamatsu) ตั้งอยู่ทางใต้ของญี่ปุ่น พร้อมกับมีการพัฒนาเครื่องทอผ้า เพื่อให้สามารถรองรับกับ ความต้องการของลูกค้าในยุคนั้น จนเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องทอผ้าของโลก ที่ต้องการเครื่องจักรที่สามารถผลิตเสื้อผ้า ที่มีลายในแนวนอน และแนวตั้งได้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานอย่างแท้จริงได้ จึงเป็นที่มาของปรัชญาของ ซูซูกิ คือ “โมโนซูกูริ” (Monozukuri) หรือ นวัตกรรมแห่งการประดิษฐ์แห่งการสร้างสรรค์ เพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้...ให้เป็นไปได้
ซูซูกิ เริ่มหันมามุ่งเน้นธุรกิจยานยนต์ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่มาพร้อมกับความท้าทายที่ตั้งใจไว้ ซึ่งสามารถ
ตอบสนองการดำรงชีวิตของผู้คนได้มากกว่า และด้วยการผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความท้าทายมากมาย ความใฝ่ฝัน และเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ประสบผลสำเร็จในปี 1952 (พ.ศ.2495) ซูซูกิ ได้เปิดตัว “Power Fee” ยานพาหนะแบบ 2 ล้อ ที่นำจักรยานมาติดเครื่องยนต์ (Motorized Bicycle) ขนาด 36 ซีซี 2 จังหวะ ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นแรกของซูซูกิ ในธุรกิจรถจักรยานยนต์ และได้รับความนิยมอย่างมาก และหลังจากนั้นในปี 1953 (พ.ศ.2496) ซูซูกิผลิตจักรยานติดเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงขึ้น รุ่นต่อมาคือ “Diamond Free” ขนาด 60 ซีซี 2 จังหวะ และเวลาแห่งความสำเร็จก็มาถึงกับรถจักรยานยนต์ (Motorcycle) ที่สมบูรณ์แบบคันแรกของซูซูกิ ชื่อว่า “Colleda” ขนาด 90 ซีซี 4 จังหวะ ผลิตออกมาในปี 1954 (พ.ศ.2497) และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนได้ออกรถใน Series ต่อๆ มาอีกหลายรุ่น
จากนั้น ซูซูกิ ไม่หยุดยั้งในการพัฒนารถจักรยานยนต์รุ่นต่อๆ มา ซึ่งสร้างชื่อเสียง และได้รับความนิยมไป
ทั่วโลกในแต่ละ Series จวบจนปัจจุบัน จนติดอันดับ “World’s Big Four” อันได้แก่ T500 (1968), GT750
(1971), RM125 (1975), GS750 (1976), RG250R (1983), GSX-R750 (1985), IntruderVS1400 (1987), Bandit400
(1989), Skywave/Burgman400 (1998), Hayabusa (1999), B-King (2008) และ Gemma (2008) เป็นต้น โดยฉลอง
การผลิตรถจักรยานยนต์ สะสมครบ 40 ล้านคันทั่วโลก ในปี 1999
ฝันที่เป็นจริง…กับการเดินหน้าเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเต็มตัว
เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com
No comments:
Post a Comment