Tuesday, August 31, 2010

Bennett's 1925 TT Norton ?

From "The Classic Motorcycle, July 1991, pp 53-57''. Sent by Hans. Click the images for a full-page version. Refer to this blog entry for more info on this bike.


...and Simon's comments. From "The Classic Motorcycle, August 1991, p 26". More comments in this blog entry.

Monday, August 30, 2010

"ฟีม" เจ็บใจเบรกพลาดจนกลิ้ง

รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดทีมไทยฮอนด้าพีทีทีสิงห์แซค ในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู สุดเจ็บใจกับการเบรกที่ผิดพลาดจนต้องออกจากการแข่งขันสนามล่าสุดที่อินเดียนาโพลิส ทั้งที่กำลังเกาะกลุ่มอยู่ในอันดับที่ 6 จนต้องพลาดเก็บแต้มติดมืออีกสนาม

นักบิดหนึ่งเดียวของไทยออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันที่อินเดียนาโพลิส กรังด์ปรีซ์ ที่สนามอินเดียนาโพลิส มอเตอร์สปีดเวย์ ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยการเกาะกลุ่มอยู่ในอันดับที่ 4-7 ทว่าต้องออกจากการแข่งขันเมื่อพลาดล้มในรอบที่ 9 ของการแข่งขัน

โดยนักบิดหน้าตี๋เผยด้วยความเจ็บใจหลังจบเรซว่า "มันเกือบจะเป็นสุดสัปดาห์ที่ดีของผมและทีมงาน เราต้องออกสตาร์ทถึง 2 ครั้งหลังเกิดอุบัติเหตุในโค้งแรก ซึ่งในการรีสตาร์ทผมเกาะกลุ่มขับเคี่ยวอยู่ในอันดับที่ 4 ถึง 7 ร่วมกับทามัคซี ,เอียนโนเน รวมถึงลูธิ"

"ซึ่งจากความเร็วที่รถของเราทำได้ดีในเรซนี้ ผมจึงพยายามแซงเอาอันดับคืนในช่วงสุดทางตรงโค้งแรก แต่มันน่าเจ็บใจและเสียดายมาก เมื่อผมกดเบรกหลังเบาเกินไปจนรถสะบัดเสียความควบคุม จนต้องออกจากการแข่งขัน ผมขอโทษทีมงานและแฟนๆทุกคน และจะขอแก้ตัวอีกครั้งในเรซหน้าที่มิซาโน"

สำหรับฟีมยังคงมีแต้มสะสมในรุ่นโมโตทูอยู่ที่ 25 คะแนน รั้งอันดับ 17 ในตารางแชมเปียนชิป ตามหลังเซร์คิโอ การ์เด ที่อยู่ในอันดับ 10 อยู่ 33 คะแนน โดยการแข่งขันสนามต่อไปจะไปดวลความเร็วกันที่สนามิซาโน ในซาน มาริโน วันที่ 5 ก.ย.นี้

เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/

ฟูมิอากิ นางาชิมา "ยามาฮ่า" แบรนด์ในใจ "วัยรุ่น"

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าในแวดวงตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย นอกจากภาพของการแข่งขันในเชิงยอดขาย อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ความมุ่งมั่นและพยายามขับเคลื่อน "แบรนด์" ของตัวเอง ให้เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสร่วมพูดคุยกับนายใหญ่แห่งค่ายรถจักรยานยนต์ เบอร์ 2 "ฟูมิอากิ นางาชิมา" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด แม้จะเข้ามานั่งแท่นบอสใหญ่ได้เพียงขวบปีกว่า แต่ด้วยความมั่นใจบวกกับทิศทาง การบริหาร และทีมงานคุณภาพ ทำให้เขามั่นใจในความเป็นผู้นำ "เทรนด์" แล้วยืนยันว่า ยามาฮ่าถือเป็นเบอร์หนึ่งไม่เป็นรองใคร

- ความพอใจตลาดเมืองไทย ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง

ก่อนที่ผมจะเข้ามารับหน้าที่ดูแลตลาดเมืองไทยนั้น ผมเคยดูแลตลาดทั้งใน อเมริกา, ยุโรป, อินโดนีเซีย หรือแม้แต่ในจีนมาแล้ว แต่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่า "ยามาฮ่า" เมืองไทยน่าจะเป็นบริษัทมีระบบการจัดการภายในองค์กรที่ดีที่สุด ทั้งด้านการผลิต การตลาด การเงิน การวางแผนธุรกิจ เรียกได้ว่า ระบบควบคุมภายในทุกอย่างน่าจะดีที่สุดเท่าที่เคยมีประสบการณ์มาจากประเทศอื่น ๆ

- นโยบายหลักที่จะใช้กับเมืองไทย

ในช่วงระยะนับตั้งแต่ปี 2552 ที่เข้ามารับตำแหน่ง ไปจนถึงปี 2554 หรือภายใน 3 ปีนี้ ยามาฮ่าจะต้องมี 1.ยอดขายภายในประเทศที่มากกว่า 500,000 คัน 2.จะต้องมีส่วนแบ่งตลาดเกินกว่า 28% และ 3.คือ ภายในปีที่ 3 หรือปี 2554 นั้น ยามาฮ่าจะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 30% ให้ได้

อย่างในปีนี้ เราเชื่อว่าจะมียอดขายมากกว่า 500,000 คันอย่างแน่นอนแล้ว ส่วนมาร์เก็ตแชร์ การผลิต ทุกอย่างก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในแผนงานของบริษัททั้งสิ้น ซึ่งถ้าปีนี้ยามาฮ่ามียอดขายมากกว่า 500,000 คัน ในปีหน้าเราก็หวังว่าจะมียอดขายที่ 550,000 คัน

- มองอะไรที่ยามาฮ่าน่าจะทำได้มากกว่านี้

ในส่วนของรูปแบบการทำตลาดของ ยามาฮ่าในปีนี้ เราก็จะยังคงเน้นไปที่มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง, สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เจาะเข้าไปยัง "ไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง" อย่างต่อเนื่อง

หลังจากตลอดช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าค่อนข้างประสบความสำเร็จกับการใช้รูปแบบการทำตลาดข้างต้นมาแล้ว

ส่วนโรงงานนั้น ปัจจุบันนอกจากเราจะใช้สำหรับผลิตรถจักรยานยนต์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในประเทศแล้ว เราก็ยังคงมีการผลิตเป็นรถจักรยานยนต์ สำเร็จรูปและชิ้นส่วนออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งฟิลิปปินส์, กัมพูชา, กรีซ, ลาว, มาเลเซีย และเวียดนาม และอนาคตบริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งออกไปยังประเทศใหม่อย่างแอฟริกาใต้, อเมริกากลาง และยุโรปด้วย

- ความคืบหน้าของธุรกิจใหม่ ๆ

เป็นที่ทราบกันดีว่า "ยามาฮ่า" เราไม่ได้มีการผลิตสินค้าเฉพาะรถจักรยานยนต์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เรายังมีสินค้าอื่น ๆ ซึ่งมีความหลากหลาย ทั้งเครื่องเรือ, เวฟ รันเนอร์, บิ๊กไบก์ ซึ่งเราคงจะต้องวางแผนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนปีนี้เราก็กำลังเตรียมแผนงานที่จะแนะนำสินค้าใหม่ อย่างรถกอล์ฟและเครื่องยนต์อเนกประสงค์ออกสู่ตลาดเมืองไทยด้วย

เนื่องจากเราต้องการนำเสนอสินค้าในส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้เลือกใช้และพิจารณา รวมทั้งเราต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าว่า "ยามาฮ่า" ไม่ได้มีสินค้าเฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น

- อีก 3 ปียามาฮ่าจะปักธงกับตลาดเมืองไทยอย่างไร

สำหรับรถจักรยานยนต์ของเราก็ยังจะคงเน้นเจาะกลุ่มไปที่วัยรุ่น โดยเฉพาะการสื่อสารความเป็นที่ 1 ด้านภาพลักษณ์ ที่สดใหม่อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าวันนี้เราจะทำได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่เราก็ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นภาพความสดใหม่ และแบรนด์ที่แตกต่าง ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์สินค้า ตรา สินค้า ซึ่งวันนี้ภาพของยามาฮ่าในเชิงของ วัยรุ่น คือวัยรุ่นที่มีสไตล์ มีรสนิยม น่า ตื่นเต้น เร้าใจ หรือถ้าพูดให้ตรงประเด็นคือ "ยามาฮ่า" จะต้องเป็นแบรนด์ในใจวัยรุ่นทั่วประเทศ

- การลงทุนเพิ่มเติมสำหรับปีนี้

วันนี้ด้วยพื้นที่และกำลังผลิตของโรงงาน ในปัจจุบัน เทียบกับยอดขายถือว่าวันนี้ ยามาฮ่ายังไม่มีแผนลงทุนใด ๆ โดยเฉพาะการลงทุนในส่วนของการขยายโรงงานวันนี้ยังไม่มีความจำเป็น แต่โดยปกติเราได้วางงบประมาณสำหรับการลงทุน ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต อุปกรณ์ และเทคโนโลยี รวมทั้งการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ ซึ่งเราได้วางงบประมาณโดยเฉลี่ยได้ปีละ 1,000 ล้านบาทต่อปีอยู่แล้ว

ส่วนสินค้าใหม่ที่บริษัทจำนำเข้ามาทำตลาด อย่าง "รถกอล์ฟ" และ "เครื่องยนต์อเนกประสงค์" นั้น จะเป็นในรูปแบบของการนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายมากกว่า

ในส่วนของกำลังการผลิตปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 650,000 คันต่อปี ปีนี้เราตั้งเป้าขายในประเทศกว่า 500,000 คัน และส่งออกอีกประมาณ 20,000 คัน ไม่รวมซีบียู ซึ่งโรงงานเราถือว่ายังรองรับเพียงพอ

- มองภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในปีนี้

วันนี้ต้องบอกว่า หากสถานการณ์ทุกอย่างยังอยู่ในภาวะปกติเหมือนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คาดว่ายอดขายโดยรวมในปีนี้น่าจะอยู่ระดับ 1.8-1.9 ล้านคัน โตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 23% ในช่วง 7 เดือน ที่ผ่านมา หรือจะประเมินให้ชัดเจน"ยามาฮ่า" คาดว่ายอดขายโดยรวมน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.85 ล้านคัน หรือโตประมาณ 15% ถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา และยามาฮ่าจะมียอดขายอยู่ที่ 520,000 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 28%

โดยสัดส่วนของการจำหน่ายจะแบ่งเป็นรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ 53% เกียร์ธรรมดา 47% สำหรับตลาดรวม ขณะที่สัดส่วนการขายของยามาฮ่านั้นจะเป็นรถเกียร์อัตโนมัติสูงถึง 85% และเกียร์ธรรมดาเพียง 15%

- หมายความว่าพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน

แน่นอน ยามาฮ่าเราเชื่อว่าตลาดรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติน่าจะมีการขยายไปได้มากกว่านี้ อย่างปีที่ผ่านมาสัดส่วนของรถเกียร์อัตโนมัติอยู่เพียงแค่ 49% แต่ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 53% และปีหน้าเชื่อว่าจะ เพิ่มเป็น 55% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 60% และยามาฮ่าเองน่าจะมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันด้วย

- มองตลาดปีหน้า

สำหรับในปีหน้าเรายังเชื่อว่ายอดขายรถจักรยานยนต์โดยรวมก็น่าจะมีตัวเลขอยู่ในระดับ 1.8-1.9 ล้านคัน ใกล้เคียงกับปีนี้ เหตุผลที่เชื่ออย่างนั้น เพราะว่าวันนี้จำนวนประชากรไทยไม่ได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน 2.เรามองว่าตลาดน่าจะอยู่ในระดับใกล้ถึงจุดอิ่มตัว ซึ่งตัวเลขในระดับ 1.8-1.9 ล้านคันนี้ ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดี

ทั้งนี้ ยามาฮ่าเชื่อว่าหากเราทำสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันอย่างเต็มที่แล้ว บวกกับการสนับสนุนและส่งเสริมจากบริษัทแม่ ในแง่ของการพัฒนาสินค้า อย่างไรก็แล้วแต่เราเชื่อว่าสุดท้าย "ยามาฮ่า" จะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในระดับ 30-35% ได้ไม่ยากนัก

- แผนขยายเครือข่าย

ปัจจุบันยามาฮ่ามีตัวแทนจำหน่าย 550 แห่งทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นยามาฮ่า สแควร์ 400 แห่ง และรูปแบบธรรมดาประมาณ 150 แห่ง ตามแผนงานที่วางไว้คือ การเพิ่มจำนวนสาขา 30-40 แห่งต่อปี คาดว่าภายใน 5 ปีจะมีตัวแทนจำหน่ายประมาณ 700 แห่งทั่วประเทศ ส่วนยามาฮ่า โอเค ซึ่งเป็นโชว์รูมที่จำหน่ายรถมือสองอย่างเป็นทางการของยามาฮ่า ปัจจุบันยังคงมี 1 สาขาย่านรัชดาฯ และยังไม่มีแผนงาน จะขยายเพิ่มในตอนนี้ เพราะเราตั้งใจให้ ยามาฮ่า โอเค เป็นโชว์รูม และสถานที่เป็น กลางในการวางมาตรฐานราคาจำหน่าย รถจักรยานยนต์มือสองของเราในแต่ละรุ่น

เพิ่มเติม http://www.prachachat.net/

Sunday, August 29, 2010

Why Guthrie, White and Frith did not compete in Australia

A letter from the Norton works dated 10 July 1937.  Sent by Dennis

NTX Feed the Kids Rally Photos

2010 North Texas Feed the Kids and Food Drive Rally
Sunday, August 29, 2010
Fat Daddy's Sports and Spirits Cafe
781 West Debbie Lane, Mansfield, TX 76063
Time: 11:00am to 7:00pm

SS on display just inside.


A few tables full of neat raffle items.


There were lots of cool bikes.


This one was belt driven down the center.
No hub!

VW Powered.

My Mistress



Ride on,
Torch