Wednesday, March 31, 2010

FINAL IRTA TEST



การฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายของบรรดานักแข่งในรุ่นโมโต 2 ได้เสร็จสิ้นลงไปเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หนึ่งเดียวของไทย ซื้อตั๋วไปทันซ้อมอย่างชนิดใจหายใจคว่ำ เมื่อต้นสังกัดไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับตัวถัง (Frame) ที่จะใช้ชิงชัยในปีนี้ รวมทั้งสปอนเซอร์บางรายที่ยังไม่พร้อมเข้าสนับสนุน ทำให้เกิดการล่าช้าไปทุกขั้นตอน

แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา


สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก

ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981

"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"

การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที

"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"

วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน

หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า

"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"

โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้

การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ



เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591

The Triumph Racing Team 1949






een prachtige plaat....
Bron:

Wij kijken uit naar het LENTE-weer...


SO

STEEDS VERASSEND, ALTIJD DICHTBIJ

Motoring George Spauwen


Sponsored by


เอสวายเอ็ม สองล้อไต้หวันลุยไทยเล็งยอดปีแรก2หมื่นคัน

เอสวายเอ็ม สองล้อไต้หวัน ประกาศแผนลุยตลาดไทยส่ง 5 รุ่นใหม่ทำตลาด เล็งยอด 2 หมื่นคันต่อปี

นายธนชาต ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม ไบค์ มอเตอร์เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์เอสวายเอ็ม (SYM-Taiwan’s Sangyang Motor) จากไต้หวัน เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ ใหม่ 5 รุ่นได้แก่ BONUS X110 cc Fiddle II 125 cc Orbit 125cc 50 cc RADAR X 125 cc และ Symphony 125 s ซึ่งจักรยานยนต์เอสวายเอ็ม เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อใหม่ ที่เน้นเรื่องคุณภาพสูงกว่ารถจักรยานยนต์จากจีน ในราคาจำหน่ายที่ต่ำกว่า

บริษัทมีเป้าหมายการจำหน่าย ในปีแรก 6,000 คันต่อปี จากเครือข่ายดีลเลอร์ 50 แห่ง และในอนาคตคาดว่าจะทำยอดขาย 12,000 คันต่อปี เมื่อมีดีลเลอร์ครบ 100 แห่ง ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นอันดับหนึ่งของเซ็กเมนท์ รถอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถญี่ปุ่น (Non-Japanese Brand) หรือมียอดขายที่ประมาณ 20,000 คันต่อปี ในอนาคต
นายธนชาต กล่าวต่อไปว่า เอสวายเอ็มเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่ชื่นชอบแฟชั่น ความแปลกใหม่ และมีความต้องการรถจักรยานยนต์คุณภาพ ที่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในภาวะเศรษฐกิจที่น้ำมันมีราคาแพง สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มลูกค้าที่ใช้รถในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น นักศึกษา และวินมอเตอร์ไซค์ ผู้ที่ต้องการรถไว้ใช้เฉพาะในช่วงวันหยุด เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางในระยะทางใกล้ๆ ที่สำคัญ คือ กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ในราคาที่ต่ำกว่า


นายธนชาต กล่าวต่อว่า บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างตลาดและการกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย การกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายได้มีการทดลองใช้รถ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการจำหน่ายผ่านไปยังกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสินค้าคุณภาพ ในราคาสมเหตุสมผลอย่างแท้จริงปัจจุบัน บริษัทมีดีลเลอร์จำนวน 50 แห่ง ในอนาคตคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100 แห่ง

"กิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นตลาด แนะนำแบรนด์เอสวายเอ็ม ให้เป็นที่รู้จักนั้นจะเริ่มจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เพื่อสร้างการรู้จักรับรู้ในแบรนด์ สู่กลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นทางการ พร้อมจัดแคมเปญ ข้อเสนอพิเศษ อำนวยความสะดวกเรื่องการจัดไฟแนนซ์ เพื่อกระตุ้นการซื้อ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด จะให้ความสำคัญกับสื่อต่างๆ ตลอดจนการเข้าไปจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในสังคมต่างจังหวัดอย่างครอบคลุม" นายธนชาตกล่าว

ทั้งนี้ ความต้องการของตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย ยังคงเติบโตต่อเนื่องโดย 2 เดือนแรกของปีนี้ มียอดขาย รวม 296,995 คัน เติบโต 133% และคาดว่าในสิ้นปีตลาดรวมจะมียอด 1.68 ล้านคัน

เพิ่มเติม http://www.bangkokbiznews.com/

พาณิชย์ยื่นฟ้องเอ.พี.ฮอนด้าพฤติกรรมค้าไม่เป็นธรรม

รมว.พาณิชย์ เห็นชอบให้อัยการยื่นฟ้อง บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า คดีตัวอย่างข้อหามีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันการค้าไม่เป็นธรรมจนกระทบต่อธุรกิจเดียวกัน

ที่ประชุมคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ซึ่งมีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เห็นชอบให้กรมการค้าภายในส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า เป็นคดีตัวอย่างข้อหามีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันการค้าไม่เป็นธรรม หลังพิจารณายืดเยื้อมานานกว่า 9 ปี

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯเห็นชอบให้กรมการค้าภายในส่งอัยการฟ้องร้องบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ตามข้อสรุป และข้อเสนอของคณะอนุกรรมการสอบสวนการร้องเรียนฯ เนื่องจากบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม จนกระทบต่อธุรกิจลักษณะเดียวกัน

โดยบริษัทฯ ได้ใช้อำนาจเหนือตลาดห้ามตัวแทนจำหน่าย(เอเย่นต์) ขายรถจักรยานยนต์ของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2544 และถือเป็นการทำผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ที่มีโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

"ถือเป็นกรณีแรกที่มีการฟ้องเอาผิดตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า โดยเป็นการสอบสวนไปตามขบวนการที่พิจารณาจากข้อเท็จจริงจากพยาน 23 ปาก และหลักฐานกว่า 2,000 หน้า ประชุมกันถึง 12 ครั้ง ก็พบว่ามีการกระทำที่ไม่ใช่การแข่งขันที่เป็นธรรมจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจรายอื่นที่มีลักษณะแบบเดียวกัน" นายยรรยง กล่าว

สำหรับการประชุมครั้งนี้สามารถพิจารณากรณีบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ได้เพียงเรื่องเดียว ส่วนกรณีอื่นๆ นั้นที่ประชุมฯ จะมีการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป โดยมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนอีก 3 เรื่องที่ร้องเรียนเข้ามา คือ การขายเหล้าพ่วงเบียร์, การกีดกันทางการค้าในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และขายข้าวถุงต่ำกว่าทุน

Tuesday, March 30, 2010

Tony's 1927 Model 25 Norton



Tony from the UK sent these photo's of his stunningly beautiful 1927 Model 25 Norton. The M25 ranks amongst the most desirable flat tank Nortons. It has a highly tuned engine and is equipped with a 'semi-dry sump' lubrication. Note the chamber under the timing chest that contains the oilpump.

"I bought the bike in 1969 from its second owner. The bike was supplied new from Freddie Dixon of Middlesbrough. The first owner only used the bike for a fortnight before having a minor accident with a lady crossing the road on the seafront at Redcar. Dixon took the Norton back and the chap I bought it from owned it from then onwards. The outdoor photos were taken in about 1973 just after I'd restored the bike. The other photo was taken around 10 years ago and currently the Norton is in pieces having some work done but I hope to have it reassembled later this year."

Skydrive 125



Futuristic & Emotional Design เพิ่มสีสันให้ชีวิต แต่งแต้มจิตวิญญาณสุด Extreme ในตัวคุณกับ สีสันถึง 4 สี Silver, Red, Black, และ White พร้อมเส้นสายกราฟฟิก มาดใหม่ให้ทุกไลฟ์สไตล์มันส์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อชีวิตโลดแล่น สู่ทุกเส้นทางได้เร้าใจแบบสุดขั้ว

ฉีกทุกแนวกล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้เบาะสารพัด... สารพัด...สารพัน จะจัดเก็บทั้งเครื่องเล่น PSP เสื้อผ้าสุดเท่ หรือ จะเป็นของไฮเทคส่วนตั๊ว...ส่วนตัว ที่เก็บติดตัวไปได้ทุกที่ สะดวก...สบาย ช่องเก็บของสารพัดประโยชน์ด้านหน้า ช่องใส่ของด้านหน้าขนาดใหญ่ 2 ช่องพร้อมที่แขวนอเนกประสงค์ โดนใจคนมีของ(มันส์ๆ) เก็บได้เข้าที่ หยิบใช้ได้ทันใจ สนองตอบ ไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เป็นคุณ เซฟตี้สุดๆ... ระบบกุญแจนิรภัย 2 ชั้นแบบแม่เหล็ก รถคู่ใจ...จอดได้มั่นใจกับระบบกุญแจนิรภัย 2 ชั้นแบบแม่เหล็ก เพิ่มความปลอดภัยมั่นใจทุกที่ที่จอด ล็อคสะดวกมั่นใจแค่เพียงปลายนิ้ว เหนือชั้น...มั่นใจ ดิสก์เบรกและโช้คอัพหน้า โช้คอัพหน้าแบบจุดยึดแกนตรงกลาง ให้การทรงตัวเป็นเยี่ยม ยึดเกาะทุกสภาพถนน พร้อมมั่นใจปลอดภัยกัดิสก์เบรกหน้า หยุดสนิท สั่งได้ดังใจคุณ ออโต้หัวฉีดอัจฉริยะ DCP-FI (Fuel Injection) Super CVT 4 จังหวะ 125 ซีซี แรงเหนือใครด้วยเทคโนโลยีหัวฉีดอัฉริยะ DCP-FI (Discharge Pump Fuel Injection) ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดที่แม่นยำ เที่ยงตรงทุกอัตราเร่งพาไปไหนได้หมดจด รักษ์โลกสไตล์คนวัยมันส์ เพราะเครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานค่าไอเสียระดับ 6 ประหยัดน้ำมัน กว่าอย่างเหนือชั้น สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 E20 เร่งสปีด เต็มพลังด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Super CVT (Super Continuously Variable Transmission) ให้แรงบิดเป็นเยี่ยม แรงแซง สู่เส้นทางที่เป็นตัวจริง SUZUKI SKYDRIVE 125
Drive ชีวิตถึงขีดสุด


เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/Product/Motorcycle/Skydrive2010.asp

ซิ่งเลี่ยนเร็วสุดเทสต์ "โมโตทู" วันสุดท้าย



เคลาดิโอ คอร์ติ นักบิดอิตาเลียนจากทีมฟอร์เวิดร์ด เรซซิง ในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู ทำเวลาเร็วที่สุดในการทดสอบรถครั้งสุดท้ายก่อนเปิดฤดูกาล ที่สนามเฆเรซ ประเทศสเปน ขณะที่ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดไทยทำเวลาเข้ามาอันดับที่ 21 จากนักบิด 40 คน

บรรดานักบิดรุ่นโมโตทู เครื่องยนต์ 600 ซีซี 4 จังหวะต่างนำรถลงทดสอบสนามครั้งสุดท้าย ตามโปรแกรมเทสต์อย่างเป็นทางการ ที่สนามเฆเรซ ประเทศสเปน หลังจาก 2 วันแรก โทนี อีเลียส และยูกิ ทากาฮาชิ 2 นักบิดที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาได้ดีที่สุด

ซึ่งในการเทสต์วันสุดท้าย นักแข่งแต่ละคนสามารถนำรถลงจับเวลาได้ในรอบเช้าเท่านั้น ซึ่งผลปรากฎว่า เคลาดิโอ คอร์ติ ทีมฟอร์เวิดร์ด เรซซิง ภายใต้เฟรมรถซูเตอร์ ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุดที่ 1 นาที 44.044 วินาที ซึ่งนับเป็นเวลาที่ดี่ที่สุดตลอด 3 วันของการทดสอบ

ขณะที่ท็อป 5 ของการทดสอบโมโตทู ที่เฆเรซ ประกอบไปด้วย อันดับ 2 โทนี อีเลียส จากทีมเกรซินี อันดับ 3 คาเรล อับบราฮัม จากทีมเอบี มอเตอร์ริง อันดับ 4 สก็อตต์ เรดดิง จากทีมมาร์ค วีดีเอส และอันดับ 5 เป็นเคนนี โจนส์ จากทีมอันโตนิโอ แบนเดอร์รัส

ส่วนผลงานของรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดสังกัดทีมไทยฮอนด้า-แซค ภายใต้เฟรมรถบิโมตา HB4 ในวันสุดท้าย ทำเวลาต่อรอบเข้ามาเป็นที่ 27 อย่างไรก็ดีหากรวมเวลา ทั้ง 3 วัน "เจ้าฟีม" ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดที่ 1 นาที 45.463 วินาที รั้งอันดับ 21 จากนักบิดรุ่นนี้ 40 คน

สำหรับศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกฤดูกาล 2010 ทั้งรุ่นโมโตจีพี โมโตทู และรุ่นจีพี125 จะเปิดฉากสนามแรกของปีกันที่สนามโลไซอัล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ วันที่ 11 เมษายนนี้



เพิ่มเติม http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000043949

Ohio Riders Forum Review

Ohio Riders Forum Review

There are a lot of good motorcycle forums out there. You can find forums based on the brand or model of bike you ride, the style or type of riding that you do, or ones based on the location or area that you ride in. Most are friendly and helpful and are a great place to find information, meet new people and just pass the time when you cannot ride. One of the better forums out there is the Ohio Riders forum. If you live and ride in Ohio, are just going to be passing through or are stopping in for a visit, be sure and stop by the Ohio Riders forum to glean great information about motorcycling in The Buckeye State.


Ben Stillman asked me to stop in for a visit and give them a review. I have been perusing their forum now for a couple of weeks and have found it quite informative and entertaining. Since they are a location based forum they do not care what type or brand of bike that you ride whether it be a Yamasaki or a Honda-Davidson. The Ohio Riders forum is an active forum with stats of; Threads: 54,014, Posts: 443,123, Members: 3,932 as of March 30th. It seems there is someone online almost all the time.

They break the forum down into six catagories including;

The lounge; which includes sections covering, Introductions, Tech Tips, Riding Tips and more.

Riding Styles: where you will find sections on Street Fun, Track Days, Adventure / Sport Touring, Stunting, and more.

Rides and Events; which has the Calendar Events and breaks them all down by the different areas of Ohio.

Time Wasters; where you will find the subjects of Ranting and Raving, Off-Topic, Pics and Vids, and more.

Market Place; where you will find the Bike Shop, Parts Shop, Gear Shop and more for sale.

News Feeds; which includes news feeds from AMA, MotoGP, MCN, and SpeedTV, a very good selection in my humble opinion. This makes their site a great one stop motorcycling news source.

Ohio Riders forum is laid out aesthetically and is very organized making it intuitive to navigate. There are a few well placed ads that are neither distracting nor overbearing. The atmosphere is friendly and there is the usual ribbing, banter and forum humor you will find on most forums. Ohio Riders has been helping motorcycle riders since 2006 with no end in sight. Even if you don’t live or ride in Ohio you can find useful or entertaining information browsing their forum. Stop in and say ‘hi’ and tell them Torch sent ya.

Ride on,
Torch

Monday, March 29, 2010

ฟีม พอใจผลเทสต์รถ 2 วันแรก



รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์ จีพี สังกัดทีมไทยฮอนด้า-แซค พอใจผลการทดสอบ บิโมตา HB4 รถแข่งคันใหม่ ที่จะใช้ลุยศึกโมโตทู 2010 หลังนำรถลงทดสอบที่สนามเฆเรซรวม 104 รอบสนาม เมื่อวันเสาร์-อาร์ทิตย์ที่ 27-28 มี.ค. ที่ผ่านมา นักบิดหน้าตี๋ชาวไทย ต้องรอจนถึงรอบสุดท้ายของโปรแกรมทดสอบรถในรุ่นโมโตทู หลังพลาดการเทสต์รถ 2 รอบแรกร่วมกับนักแข่งอีกกว่า 30 คน เนื่องจากทีมสต็อป แอนด์ โก (แซค) มีปัญหาเรื่องเฟรมรถคันใหม่ ก่อนจะมาลงตัวที่รถเฟรมบิโมตา HB4 จากอิตาลี


ซึ่งหลังจากที่เจ้าฟีมที่ได้ขี่รถคันใหม่เป็นครั้งแรกที่สนามเฆเรซ ประเทศสเปนในช่วงวันเสาร์ บักบิดไทยทำเวลาต่อรอบได้ดีพอสมควรแม้อยู่ในช่วงปรับจูนรถคันใหม่อยู่พอ สมควร โดยรั้งอันดับ 23 จากนักบิด 36 คน หลังนำรถลงไปวิ่งทั้งหมด 44 รอบสนาม อย่างไรก็ดีในการทดสอบวันอาทิตย์ รัฐภาคย์ สามารถขยับเวลาของตัวเองมาได้ด้วยการรั้งอันดับ 19 จาก 36 คัน ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 45.463 วินาที จากการบิด 60 รอบสนาม ช้ากว่าเวลาของยูกิ ทากาฮาชิ นักบิดทีมเทคทรี เรซซิงที่ทำเวลามาเป็นอันดับ 1 อยู่ 0.9 วินาที
โดยภายหลังการทดสอบฟีมเผยว่า "วันเสาร์เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะผมเพิ่งจะจับรถเป็นวันแรก แต่ต้องขอบคุณทีมงานที่ทำงานอย่างหนักในการเซ็ตอัพ ก่อนที่วันอาทิตย์จะทำให้การขับขี่ง่ายขึ้น ผมพอใจรถเป็นอย่างมากโดยเฉพาะความสมดุลระหว่างล้อหน้าและหลังในการเข้าโค้ง เช่นเดียวกับการใช้คันเร่งในช่วงออกโค้ง" สำหรับฟีมยังมีคิวนำรถลงทดสอบเป็นวันสุดท้ายที่สนามเฆเรซในวันจันทร์ ที่ 29 มี.ค.นี้ จากนั้นจะบินกลับมาเมืองไทยเพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 เม.ย. ก่อนที่จะลงแข่งสนามแรกของปี 2010 ที่ประเทศกาตาร์ วันที่ 11 เม.ย.นี้


เพิ่มเติม http://www.mocyc.com/news/view.php?category=1&idnews=354

Sunday, March 28, 2010

แนะนำรถจักรยานยนต์ใหม่ : New Smash



New Smash แจ่มแจ๋ว หัวจรดปลายท่อ เมื่อได้ขับขี่ Smash ใหม่ขวัญใจของทุกคน กับเครื่องยนต์ 110 ซีซี 4 จังหวะ ไฟหน้าชัดแจ๋ว ดีไซน์สุดแจ่ม ชุดไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ใหม่ สไล์สุดล้ำ ไปไหนใกล้ไกล ก็วางใจได้เพราะส่องสว่างอย่าง แจ่มแจ๋วตลอดเส้นทาง แรงเต็มเปี่ยม... เยี่ยมจนต้อง ยกนิ้วให้ เครื่องยนตใหม่แจ่มแจ๋วกว่า ใคร มั่นใจได้เต็มที่ แรงดี ประหยัดกว่า ขับนุ่ม ขี่ง่าย สนุก ได้ทุกที่กับระบบเกียร์วน 4 ระดับ แถมยังรักษ์โลก เพราะ เครื่องยนต์ New Suzuki Smash ผ่านมาตรฐานไอเสีย ระดับ 6 ออกไปท่องโลกอย่าง สนุกสนานได้ไม่มีปัญหา

แผงหน้าปัด... ดีไซน์จัด ไม่แพ้ใคร ทันสมัยที่ดีไซน์ อ่านข้อมูลง่าย แสดงผลมาตรวัดความเร็ว และ มาตรวัดระดับน้ำมัน บิดได้เต็มที่ ไม่ต้องมีห่วง! กราฟฟิกเด็ด ดีไซน์โดน ลูกเล่นเด็ดๆกับลายกราฟฟิก ใหม่ โดนใจเต็มเต็ม... เท่ล้ำ ได้ไม่เหมือนใครและไม่มี ใครเหมือน ไฟท้าย... ดีไซน์เท่ไม่เป็นรอง เคลียร์ทุกปัญหา มองเห็นชัดทั้ง กลางวันและกลางคืน ด้วยลุคสปอร์ตสวยสะดุดตา แถมลีลาเลี้ยวก็สะกดใจ ปลอดภัย จอดไว้ได้ โนพลอมแพลม ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม แบบแม่เหล็ก จอดใกล้ไกลก็ วางใจได้...ไม่มีปัญหา (เฉพาะรุ่น FW110S/SD) สตาร์ทชิวๆ วิ่งฉิวสบายใจ ออกตัวง่ายแสนสบายกับระบบ สตาร์ทมือ ด้วยปุ่มใหญ่กดทีเดียว อยู่เป๊ะ! โนพลอมแพลมกัน ทั่วหน้า (เฉพาะรุ่น FW110SD) สั่งหยุดสุดสนิทกับดิสก์เบรก ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรก หยุดสนิทได้ดั่งใจ ใครๆก็ว่าแจ๋ว เพราะปลอดภัยทุกการเดินทาง จุให้หนำใจกับกล่องเก็บของ อเนกประสงค์ กล่องใส่ของใต้เบาะ จุได้หลากหลายเก็บได้เข้าที่ สิ่งของสารพัดจัดให้ได้


เพิ่มเติม http://www.spsuzuki.com/Community/Thai/Product/Motorcycle/Smash2010.asp

1933 Model 18 Norton


A Norton Model 18 road test from a 1933 issue of "Motor Cycling". (thanks Dave)

Saturday, March 27, 2010

Triumph Dragsters

Hee... Die spreuk komt mij bekend voor...
waar o waar heb ik die eerder gezien ? :)



Dual Triumph Dragster







"shorties"

Dual-engine Triumph Trident Triple !

Rear engine cylinder head has been reversed so both motors are fed by a common plenum served by a single huge turbocharger !

SO

STEEDS VERASSEND, ALTIJD DICHTBIJ

Motoring George Spauwen


Sponsored by

Victrace Sitebuilding

Friday, March 26, 2010

ฮอนด้า ผนึกกำลังผู้ใช้หัวฉีด



PGM-FI การันตีความสนุก วางหมากกลยุทธ ์We Are Fun Riders ตอกย้ำความเป็นผู้นำ "มอเตอร์ไซต์หัวฉีด คือ ฮอนด้า"พร้อมเผยโฉมความท้าทายสุดยิ่งใหญ่ต้นแบบอนาคตในงานมอเตอร์โชว์ 2010 นี้ ฮอนด้า ประกาศความยิ่งใหญ่ในงานมอเตอร์โชว์ 2010 พร้อมนำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยก้าวสู่ยุคหัวฉีด PGM FI อย่างเต็มตัว ด้วยการรวมพลังกลุ่มผู้ขับขี่ความสนุกจากฮอนด้าหัวฉีดภายใต้คอนเซพ “We are Fun Riders” ประกาศความเชื่อมั่นจากเสียงของผู้ใช้จริงมาร่วมยืนยันความสนุก พร้อมตอกย้ำ “มอเตอร์ไซต์หัวฉีด คือ ฮอนด้า” หวังเปลี่ยนตลาดรถจักรยานยนต์ไทยสู่ยุคหัวฉีด เพื่อการขับขี่อย่างสนุก โดยไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมเปิดตัวความสนุกสีใหม่ของรถ เอ.ที หัวฉีดสุดฮิต 3 รุ่น ทั้งฮอนด้าพีซีเอ๊กซ์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ และฮอนด้า คลิก ไอ นอกจากนั้น ยังโชว์ความเป็นผู้นำเทคโนโลยียานยนต์โลก ด้วยการเผยโฉม Honda VFR1200F ตัวใหม่ล่าสุด กับ วิวัฒนาการใหม่ล่าสุดในการก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ ที่ใสสะอาดไร้น้ำมันเชื้อเพลิงของ EV Cub และ U3-X สุดยอดเทคโนโลยีจากกลุ่ม HELLO! (Honda Electric Mobility Loop) และที่พลาดไม่ได้กับการเปิดตัวคู่ใจตัวใหม่ของ ฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ กับความท้าทายใหม่ในสนามแข่งระดับโลกปี 2010 รุ่น Moto 2 ที่ใช้เครื่องยนต์ฮอนด้า 4 จังหวะ 600 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM FI

มร. เซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “ตั้งแต่ปี 2008 ที่ฮอนด้าได้ประกาศพันธกิจในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยที่ต้องการนำเสนอยุคใหม่แห่งการขับขี่ด้วยระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI เพื่อแบ่งเบาภาระค่าน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นให้กับผู้ใช้รถทุกท่าน จากเจตนารมย์ดังกล่าวจนถึงวันนี้ ฮอนด้าเป็นบริษัทรายแรกและรายเดียวที่พัฒนาและปรับรถจักรยานยนต์ทุกรุ่น ทุกคันให้เป็นระบบหัวฉีด PGM-FI ทั้งหมด พร้อมนำเสนอความต่างด้านไลฟ์สไตล์ความสนุกของรถแต่ละรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายให้ครบถ้วนทุกเซกเมนต์ ซึ่งผลตอบรับทั้งหมดการันตีได้ด้วยยอดผู้ขับขี่ฮอนด้าหัวฉีดที่มีมากขึ้นถึงกว่าล้านคันภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ฮอนด้าได้กำหนดคอนเซพว่า We are Fun Riders พร้อมเชิญกลุ่มผู้ขับขี่ความสนุกมาร่วมประกาศความมั่นใจ พร้อมส่งต่อความภาคภูมิใจถึงการขับขี่รถฮอนด้าหัวฉีดอย่างเต็มรูปแบบ 100% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 นี้เป็นต้นไป” สำหรับในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” (The 31st Bangkok International Motor Show) ครั้งที่ 31 นี้ ทางฮอนด้าได้ผนึกกำลังความคิดสานต่อเรื่องราวความสนุกมากมายจากมอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีด โดยเน้นใช้กลยุทธ์เชิงรุกย้ำความสำเร็จของแบรนด์ แบบเข้าถึงอินไซต์จริงของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าระบบหัวฉีด PGM-FI ที่มีมากถึงกว่าล้านคนในปัจจุบัน โดยสะท้อนออกมาใต้ร่มคอนเซปต์ “We are Fun Riders” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด “มอเตอร์ไซต์หัวฉีด คือ ฮอนด้า” ซึ่งกลุ่มผู้ขับขี่ความสนุกเหล่านี้จะมาบอกเล่าความสนุกในสไตล์ของตนเอง พร้อมส่งต่อความภาคภูมิใจหลังได้ใช้มอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีดให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้สัมผัสกันต่อไป ทั้งในเรื่องของคุณประโยชน์ด้านความประหยัด ความแรงจากอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ความห่วงใยที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความทนทานที่เชื่อมั่นมายาวนาน และที่ขาดไม่ได้คือความสนุกที่ได้บ่งบอกคาแรกเตอร์ของตัวตนผ่านการขับขี่ สำหรับไอเดียในการสร้างสรรค์บูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ภายใต้แนวคิด “We are Fun Rider…มอเตอร์ไซต์หัวฉีด คือ ฮอนด้า” นี้ กำหนดภาพลักษณ์ให้เป็นแนวไลฟ์สไตล์ที่บ่งบอกและใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์ของผู้ขับขี่ตัวจริง บูธได้ถูกจำลองขึ้นตามแต่ละคาแรกเตอร์แต่ละสไตล์ โดยสิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ คือในครั้งนี้ฮอนด้าเองไม่ได้เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวด้วยตนเอง หากแต่เป็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีดตัวจริง ที่เราเรียกว่า “กลุ่มผู้ขับขี่ความสนุก” คือผู้บอกเล่าความสนุกในรูปแบบต่างๆ ที่พวกเขาและมอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีดของพวกเขาได้พบเจอ ซึ่งสไตล์ความสนุกต่างๆ นั้น ประกอบด้วย I am Premium Fun Rider! : กลุ่มผู้ขับขี่ความสนุกระดับพรีเมี่ยม กับคาแรคเตอร์การขับขี่ที่องอาจ เหนือระดับ โดยในกลุ่มนี้ประกอบด้วยมอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีด ทั้งเครื่องจักรแห่งท้องถนนสายพันธุ์ล่าสุด VFR1200F ที่จารึกความยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกของโลกกับเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะที่สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 2 ระบบ ทั้งระบบอัตโนมัติและระบบเกียร์ กับเครื่องยนต์พันธุ์ดุ 1,237 ซีซี 4 สูบ 4 จังหวะ 16 วาล์ว OHC (UNICAM) ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบหัวฉีด PGM-FI, CB1100 ความทรงจำล้ำอนาคต เครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพขนาด 1,140 ซีซี 4 สูบเรียง 4 จังหวะ DOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหัวฉีด PGM-FI พร้อมซุปเปอร์สปอร์ตมาดเข้มโฉมใหม่ 2010 Honda CBR600RR และสุดยอดยนตกรรมสะท้านสายตาคนทั่วโลก Honda PCX คันสีขาวใหม่ ถ่ายทอดชีวิตเหนือระดับได้อย่างสมบูรณ์แบบ I am Happy Fun Rider! : กลุ่มผู้ขับขี่ความสนุกสไตล์ครอบครัวความสุข กับคาแรคเตอร์การขับขี่สะดวกสบาย ทนทาน และประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยในกลุ่มนี้ประกอบด้วยมอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีด สุดยอดอมตะความนิยม ทั้ง Super Cub และ Little Cub พร้อมส่งต่อความสุขในรูปแบบที่คุ้นเคยกับความนิยมในเมืองไทยกับฮอนด้าตระกูลเวฟ อย่างพี่ใหญ่สุดในตระกูล Honda Wave125i, Honda Wave110i ระบบเอ.ที. พร้อมเปิดตัวความสุขสีสันใหม่ของ Honda Wave110i ระบบเกียร์ สีชมพู สดใสมากขึ้น และไอเดียตกแต่งสุดจี้ด โดนใจ I am Trendy Fun Rider! : กลุ่มผู้ขับขี่ความสนุกสุดอินเทรนด์ กับคาแรกเตอร์การขับขี่สไตล์มันส์ของวัยแนว โดยในกลุ่มนี้ประกอบด้วยมอเตอร์ไซต์ฮอนด้าหัวฉีด เอ.ที แฟชั่นยุคใหม่ของคนมีแนว Honda Scoopy i กับการเปิดตัว 3 สีใหม่แสบมันส์กว่าเดิม สีเหลือง สีฟ้า และสีแดง, Honda Click i 3 สีใหม่ 360 องศาแห่งความเท่ สีทอง สีชมพู และสีน้ำเงิน, Honda Air-blade i และไอเดียตกแต่งจากศิลปินไอดอลเด็กแนวทั่วฟ้าเมืองไทย อาทิ โอ๋ ฟูตอง, ทรงศีล ทิวสมบูรณ์, ตั้ม วิสุทธิ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้น ภายในบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ยังมีการนำเสนอสุดยอดความท้าทายอันเหนือขีดจำกัดของฮอนด้า ภายใต้คำจำกัดความ “Honda Challenging Spirit” เสนอความท้าทาย 2 มุมมอง โดยมุมมองแรก Honda Challenge the World ความท้าทายในสนามแข่งระดับโลก โมโตทู กับรถใหม่ 600 ซีซี 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM-FI และนักแข่งหนึ่งเดียวของชาวไทยทุกคน “ฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” พร้อมส่งต่อถึงอีกหนึ่งมุมมองความท้าทายเพื่ออนาคตวันข้างหน้า Honda Challenge the Future กับสุดยอดนวัตกรรมแห่งการขับเคลื่อนในโลกที่ใสสะอาด ไร้น้ำมันเชื้อเพลิงกับ 2 เทคโนโลยีในกลุ่ม HELLO! จากฮอนด้า นวัตกรรมต้นแบบ U3-X คือครั้งแรกของโลกกับการเคลื่อนที่แบบ 360 องศา และ EV Cub รถครอบครัวเจเนอเรชั่นล้ำหน้า อมตะความนิยมสไตล์คับ พัฒนาการเพื่อสร้างความเป็นตำนานให้คงคู่กับโลก และธรรมชาติตราบนานเท่านาน นอกจากกิจกรรมความสนุกสนานมากมายภายในบู๊ธแล้ว ทางฮอนด้าได้จัดให้มีกิจกรรม ณ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง บริเวณด้านหน้าอาคารจัดแสดงรถจักรยานยนต์ (Hall 106) ในวันที่ 31 มีนาคม – 3 เมษายน 2010 โดยในวันที่ 31 มี.ค. และ - 1 เม.ย. นั้น เป็นการจัดกิจกรรมร่วมสนุกกับการทดลองขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ทุกรุ่นรวมทั้ง Honda PCX สุดยอดเทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุด ในขณะที่วันที่ 2-3 เม.ย. 2010 พบกิจกรรมหลักการประชันสุดยอดนักแต่งรถมอเตอร์ไซต์ Mo’cye Idea Challenge ครั้งที่ 6 พร้อมรถแต่งโดนใจกว่า 100 คันให้เลือกชมกันได้อย่างเต็มตา พิเศษ! เมื่อซื้อสินค้า Honda Collection หรืออะไหล่ตกแต่ง รวมใบเสร็จได้ครบ 1,000 บาท ภายในวันที่ 2 และ 3 เมษายน ลุ้นรับรางวัล “แต่งรถฟรีในงาน มูลค่า 10,000 บาท วันละ 2 รางวัล” รายละเอียดติดตามได้ที่งาน และที่สำคัญ พลาดไม่ได้! กับสุดยอดความมันส์จากฟรีคอนเสริต์รวมศิลปินฮอนด้า ทั้งบี้ เดอะสตาร์, แดน วรเวช, น้ำชา ชีรณัฐ และตีน่า พิมพ์นารา ไรท์ ที่จะมารวมตัวขับเคลื่อนความสนุก ระเบิดความมันส์แบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ณ ลานกิจกรรม ฮอลล์ 106 ในวันที่ 3 เมษายนนี้ ทั้งนี้ สามารถติดตามภาพบรรยากาศความสนุกของกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์หัวฉีดจากฮอนด้า รวมถึงกิจกรรมและรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนกำหนดการของเหล่าดาราและศิลปินนักร้องนักดนตรียอดนิยมที่จะมาร่วมแสดงโชว์พิเศษภายในบู๊ธ ได้ที่เว็บไซต์


เพิ่มเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page039.asp?id=2197

Tim's 1930 Model 19 Norton


Tim (see this Blog and this Blog) has finished another Norton project:

"Hereby a few shots of my 1930 Model 19, just finished yesterday and started second kick. Messed about with the carb and the tick-over and on retard it is unbelievably low due to new valve guides and a good carb slide. The engine is mechanically quiet as I have had the cams and followers built up and re profiled back to standard. Not too sure about the seat height, I think it could be set a bit lower. Still needs some work on the filler cap for the petrol tank, and the fuel pipe needs plating. I will wait a month before I ride it as we still have all the salt on the roads they put on for the winter. It looks like the magneto chain cover is a earlier one by the raised Norton letters on the casting will have to find the correct one."



When asking about the history of the Norton I got this story from Tim:
 
"A good story behind this bike; it's "Buyer Beware". I brought this bike from a friend who had purchased it from a well known Vintage Motor Cycle Club member who had supposedly restored it. My friend paid good money for this bike and when he got it home he could not start it. I had a look at it at the time and we found lots wrong with it. There was a crack in the back wheel drum and the kickstart had dropped off with all the kicking my mate had done. The gearbox kickstart boss was cracked, so we never got it going. My mate never touched it again for about 8 years and then he offered it to me. As I have a 1929 Model 18, I had a spare gearbox and had a batch of brake drums made and had one in stock. I bought the bike paying good money for it knowing I would find lots wrong.
 
Sure enough it had the wrong piston, a shot big end, worn cams and followers, main bearings shot and an inlet valve completely worn out, but the part of the guide inside the port was not even there, so the valve was only running in about 1/2" of guide. One of the engine pushrods was made from a solid 3/8" bar, ground down at each end to fit. The gearbox was of the pre-1926 fine pitch with a pre-1926 clutch fitted. The forks felt good and looked like they had been re bushed, untill I pulled them apart and found 2 or 3 pieces of steel tape measure rule wrapped round each spindle.
 
Thankfully the engine and frame are the correct numbers (the frame is marked 588, indicating a Model 19). I completely rebuild it, fitting new mudguards and exhaust system and repainted the complete bike. Luckily I can do all the work myself and had the bits in stock so that made it worth while.
 
So beware when buying old bikes off old bodgers as they forget what they have done in the past and want top dollar for them; unfortunately, if you want a Vintage bike you just have to pay as not too many of them are around.